สารอันตรายในเครื่องสำอาง เช็คด่วน 4 สารต้องห้าม ก่อนหน้าพัง
สารอันตรายในเครื่องสำอาง สารต้องห้าม ก่อนหน้าพัง นอกจากการทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์แล้ว การแต่งเติมใบหน้าให้สวยงามด้วยเครื่องสำอางก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สาวๆ ส่วนใหญ่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเครื่องสำอาง ครีมบำรุงหรือแม้กระทั่งโฟมล้างหน้าของเรานั้นปลอดภัยจริงหรือไม่ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้นั้นปราศจากสารปนเปื้อนและอันตรายต่อผิวเพราะผลิตภัณฑ์บางตัวหลังจากที่ใช้แล้วแทนที่จะช่วยให้ใบหน้าดีขึ้นแต่กลับได้ฝ้ากระและสิวมาแทนซะนี่
ถ้าเช่นนั้นก็อาจเป็นไปได้ว่าผลิตภัณฑ์บางชนิดมาพร้อมสารปนเปื้อนหรือมีสารอันตรายแฝงอยู่ ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปดูกันกับ 4 สารต้องห้ามที่มีในเครื่องสำอาง ที่สาวๆ ควรศึกษาไว้และควรเลี่ยงให้ไกล หากไม่อยากให้หน้าพัง จะมีสารใดบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย คอลลาเจน กิน 8 วิธีนี้ เห็นผลสูงสุด
1.สารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
สารไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้หน้าขาวได้เร็วมากขึ้นเพราะสารไฮโดรควิโนนจะทำหน้าที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน ทำให้ใบหน้ากระจ่างใสและยังช่วยลดปัญหาฝ้ากระลงได้ แต่หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปและใช้เป็นเวลานาน ก็จะทำให้ผิวหน้าไวต่อแดดทำให้ใบหน้าหมองคล้ำและฝ้ากระเข้มขึ้นได้ โดยในปัจจุบันก็มีการนำสารไฮโดรควิโนนมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางในปริมาณที่มากเกินกำหนดทำให้เกิดผลข้างเคียงแก่ผู้ใช้ได้ง่าย ทำให้ใบหน้าเป็นจุดด่างขาว มีการระคายเคือง ผิวหน้าคล้ำลงและอาจเกิดโรคมะเร็งผิวหนังขึ้นได้อีกด้วยหากใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน
2.สารปรอทแอมโมเนีย (Ammoniated Mercury)
ปรอทแอมโมเนียถูกใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางแต่ก่อนเป็นจำนวนมาก โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผิวหน้าขาวใสและช่วยลดสิวฝ้าได้เช่นเดียวกับสารไฮโดรควิโนน ซึ่งปรอทแอมโมเนียจะเข้าไปทำหน้าที่รบกวนเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ส่งผลให้ลดการสร้างเม็ดสีเมลานินและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวบนใบหน้า ซึ่งสารปรอทแอมโมเนียเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่าครีมไข่มุกปรอทแอมโมเนีย โทษจากสารปรอทแอมโมเนียจะเข้าไปทำลายระบบไต ระบบประสาท เยื่อบุปอดและระบบทางเดินหายใจ
หากใช้สารนี้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะก่อให้เกิดภาวะพิษสะสมในร่างกาย ส่งผลให้สารพิษดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทำให้เกิดโรคไตอักเสบ โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ และโรคโลหิตจาง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อผิวหนังทำให้ผิวหนังบางลง มีผื่นคัน สารปรอทแอมโมเนียยังถูกกำหนดว่าเป็นสารต้องห้ามใช้ในปี พ.ศ.2532 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 37 พ.ศ.2532
3.สารสเตียรอยด์ (Steroids)
สเตียรอยด์เป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ สามารถใช้ได้ในทางการแพทย์และกำลังแพร่หลายในวงการความงาม โดยปกติหน้าที่ของสเตียรอยด์จะช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสรรพคุณอื่นๆ ที่ครอบคลุมทั้งภายในและภายนอก เมื่อใช้แล้วจะเห็นผลได้เร็ว ซึ่งถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสมก็จะเป็นยารักษาได้ดี แต่เมื่อใช้มากเกินไปก็จะมีผลข้างเคียงมากมายเกิดขึ้น ปัจจุบันมีการนำสารสเตียรอยด์มาผสมในครีมบำรุงผิวเพื่อใช้รักษาสิวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์เข้าไปเป็นเวลานาน เมื่อหยุดใช้จะมีผลข้างเคียงทำให้สิวขึ้นเยอะและมีอาการรุนแรงหนักมาก โดยอาจทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและอื่นๆซึ่งจะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงได้มากทีเดียว
4.สารตะกั่ว (Lead)
สารตะกั่วถือเป็นส่วนผสมต้องห้ามในเครื่องสำอางชนิดหนึ่งซึ่งมักจะเกิดการปนเปื้อนจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อสารตะกั่วถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการปวดบิดท้องอย่างรุนแรง มีอาการถ่ายเป็นเลือดและท้องผูก เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงถูกทำลายและไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ หากรับในปริมาณมากและต่อเนื่องอาจส่งผลข้างเคียงอย่างรุนแรงต่อระบบประสาท อวัยวะภายในล้มเหลวและทำให้เสียชีวิตตามมาได้ ตามกฎหมายข้อห้ามของสารตะกั่วสามารถพบได้ไม่เกิน 20 ส่วนในล้านส่วนตามน้ำหนัก ถ้าหากพบเกินปริมาณจะถือว่าเป็นเครื่องสำอางที่อันตรายได้
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย อาหารเสริม 7 ตัว ที่ดีที่สุด รับมือวัยทอง 40+
สารอันตรายเหล่านี้อาจมีการปนเปื้อนในเครื่องสำอางบางชนิด การจะหลีกเลี่ยงสารเหล่านี้ก็อาจเป็นไปได้ยากแต่ถ้าเลือกซื้อเครื่องสำอางที่มีคุณภาพดีและมีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน ไม่เห็นแก่ของถูก เท่านี้ก็ปลอดภัยต่อสุขภาพและจะคงความงามได้ยาวนานมากขึ้นแล้วค่ะ