คำคมสร้างแรงบันดาลใจ จาก 10 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ทุกคนที่มีแผนจะสร้างธุรกิจหรือแบรนด์เป็นของตนเอง ย่อมมีบุคคลต้นแบบหรือไอดอลที่เป็นแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกันทั้งสิ้น นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากทั่วโลกที่ต้องผ่านพบอุปสรรคมากมายกว่าจะได้พบพานความสำเร็จ ประสบการณ์ วิธีคิด และบทเรียนที่พวกเขาสกัดออกมาจากการทำธุรกิจที่ปรากฎในรูปของคำคมนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่คุณสามารถใช้เป็นแนวทางและหลักคิดในการสร้างธุรกิจ เพื่อเดินตามรอยความสำเร็จของบุคคลเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี และเราก็ได้รวบรวม 10 คำคมสร้างแรงบันดาลใจ จาก 10 นักธุรกิจมานำเสนอเพื่อเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้คุณแล้ว ดังนี้
คุณอาจสนใจบทความ อ่านต่อเลย โลโก้ เครื่องสำอาง ครีม เวชสำอาง ออกแบบยังไงดี
1. ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์
“ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว” หากกล่าวถึงนักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุด หลายคนคงนึกถึงเจ้าสัวธนินท์แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ไม่ได้เพียงแค่ติดอันดับนักธุรกิจที่รวยที่สุดหลายปีซ้อน หากยังเป็นนักธุรกิจที่มีวิธีคิดในการพัฒนาประเทศที่น่าสนใจ จากบุตรชายของชาวจีนโพ้นทะเล ก่อร่างสร้างตัวจากธุรกิจครอบครัวด้านกสิกรรม กระทั่งกลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมกรรมอาหารของไทย แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเจ้าสัวตลอด 8 ทศวรรษที่ผ่านมาปรากฎในหนังสือของเขาชื่อ ‘ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว’ อันสะท้อนให้เห็นว่านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่มีวันหยุดพัก ไม่ลุ่มหลงในการสรรเสริญและผลกำไร แต่มุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อรักษาและต่อยอดความสำเร็จนั้นไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เจ้าสัวจึงไม่มีวันเกษียณจากงานที่ทำมาตลอดชีวิตนั่นเอง
2. แกเร็ต แคมป์ ผู้ก่อตั้ง UBER
“จงลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับตนเองอยู่เสมอ” เมื่อเอ่ยชื่อแกเร็ต แคมป์ หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่พอกล่าวว่าเป็นผู้ก่อตั้ง UBER หลายคนก็ร้องอ๋อทันที นักธุรกิจชาวแคนาดาคนนี้ร่ำเรียนมาทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ก่อนที่จะต่อยอดความรู้ของตนเองในการสร้าง Start-up ซึ่งพัฒนามาเป็น UBER ในท้ายที่สุด ปรัชญาในการดำเนินชีวิตของแคมป์คือการลงทุนเพื่อสร้างคุณค่าให้กับตนเอง นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไม่เคยหยุดเรียนรู้ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวัน ซึ่งแนวคิดดังกล่าวก็สามารถใช้กับการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นด้วยเช่นกัน
3. โซอิจิโระ ฮอนดะ ผู้ก่อตั้ง Honda
“ความสำเร็จเพียง 1% มาจากผลของการทำงาน 99% ที่ล้มเหลว” วิศวกรชาวญี่ปุ่นโซจิโระ ฮอนดะ เคยทำธุรกิจผลิตอะไหล่รถยนต์ให้กับบริษัท Toyota มาก่อน กระทั่งที่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ธุรกิจของเขาจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก กระทั่งขายธุรกิจให้กับ Toyota แล้วก่อตั้งบริษัทวิจัยยานยนต์ของตนเองอย่าง Honda เรื่องราวหลังจากนั้นก็คือประวัติศาสตร์ ความพยายามของฮอนดะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่สะท้อนความเป็นนักสู้ของชาติญี่ปุ่นออกมาได้เป็นอย่างดี หลังจากล้มเหลวในการผลิตยานยนต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฮอนดะก็สามารถผลิตสินค้าที่ติดตลาดได้แล้วแซงหน้าคู่แข่งอย่าง Toyota ไปได้ในท้ายที่สุด ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงแค่ความสำเร็จ 1% ของความพยายามที่ล้มเหลวมากกว่า 99% ของฮอนดะเท่านั้น
คุณอาจสนใจบทความ อ่านต่อเลย สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักด้วย 8 STEPS
4. สตีฟ จ็อปส์
“ชีวิตสั้น อย่าหยุดฝัน เพราะฟังคำคนอื่น” นอกจากสตีฟ จ็อปส์ จะสร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงแวดวงเทคโนโลยีการสื่อสารไปตลอดกาลแล้ว เขายังเป็นนักธุรกิจที่มีความเป็นนักสู้เต็มร้อย หลังจากถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตนเองก่อตั้ง เผชิญหน้ากับโรคร้าย สตีฟ จ็อปส์ ได้แสดงให้เห็นว่าวิสัยทัศน์และความใฝ่ฝันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของมนุษย์ และไม่มีใครที่จะทำลายความฝันของเราได้ถ้าเราไม่ย่อท้อในการทำให้มันเป็นจริง แม้วันนี้สตีฟ จ็อปส์จะจากไปแล้ว แต่ผลงานที่สร้างขึ้นจากความใฝ่ฝันของเขายังคงดำรงอยู่ และได้รับการต่อยอดกลายเป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเขาไม่ยอมให้ใครมาตัดสินความฝันของเขา
5. แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา
“ทำความเคยชินกับการถูกปฏิเสธ” หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับแจ็ค หม่า ดีอยู่แล้ว ชาวจีนร่างเล็กผู้นี้มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ในความจริงแล้ว เขาเริ่มต้นธุรกิจด้วยต้นทุนชีวิตที่ติดลบ ต้องประสบกับคำปรามาส ถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่จะเริ่มเรียนรู้การทำธุรกิจด้วยตนเอง ปากกัดตีนถีบกระทั่งสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้อย่างยิ่งใหญ่ แจ็ค หม่า คือตัวอย่างของนักธุรกิจที่ไม่มีต้นทุนชีวิต บ้านไม่ได้รวย ไม่มีธุรกิจให้รอบริหาร แต่เขาสร้างทุกอย่างขึ้นมาจากศูนย์ แม้จะถูกสบประมาทมาทั้งชีวิต แต่เขาไม่สนใจเพราะหากทำความเคยชินกับการถูกปฏิเสธได้ และไม่กลัวที่จะล้มเหลวก็ไม่มีอะไรที่ทำร้ายเขาได้ นักธุรกิจทุกคนมีหัวใจของนักสู้ และนี่คือบทเรียนที่เราได้จากแจ็ค หม่า
6. เจริญ สิริวัฒนภักดี CEO บริษัทเบฟเวอเรจ จำกัด
“สร้างธุรกิจจากความอดทน รู้จักใช้คน ทำในสิ่งที่ตนถนัดก่อน วางแผนกระชับรวดเร็ว และลงมือทำทันที” หนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เจ้าสัวเจริญยังคงทำงานอย่างหนัก แม้ว่าวัยจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจจำนวนมาก หลากหลายสาขาอย่างเจ้าสัวมีเคล็ดลับอะไรในการบริหารธุรกิจ หลายคนคงสงสัย แต่สิ่งที่เจ้าสัวเจริญเน้นย้ำมาตลอดในการทำธุรกิจคือความอดทน การใช้คนให้เป็น และลงมือทำทันทีอย่ารอช้า เพราะในบางธุรกิจหากคิดช้าเกินไป อาจจะถูกแซงหน้าได้ นอกจากนั้น การลงมือทำทันทีจะทำให้ทราบข้อบกพร่องทันที และสามารถดำเนินการแก้ไขได้ทัน สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการเลือกใช้คนให้เหมาะกับงาน เพราะไม่มีธุรกิจใดที่ประสบความสำเร็จได้หากมาแบบข้ามาคนเดียว CEO ที่ดีต้องรู้จักบริหารคนให้เป็น จะช่วยลดภาระงาน และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
7. วิกรม กรมดิษฐ์ CEO อมตะ คอร์เปอเรชั่น
“งานคือการอธิบายตัวตน’ ให้เปลี่ยนงานอดิเรกที่คุณรักให้เป็นเงินตั้งแต่คุณยังมีแรงแล้วชีวิตคุณจะ ‘เล่นเป็นเงิน’ ทั้งชีวิต” นอกจากนักอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงแล้ว วิกรม กรมดิษฐ์ ยังเป็นนักคิดนักเขียนมากฝีมือ ผลงานหนังสือของเขาหลายเล่มได้สะท้อนหลักปรัชญาที่ใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะหลักคิดในการทำธุรกิจและการบริหารเงิน เขาเสนอว่าการทำงานเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า งานเป็นการอธิบายตัวตนว่าเราเกิดมาเพื่อสิ่งใด โดยเฉพาะงานที่รัก หากคุณสามารถสร้างมูลค่าจากสิ่งที่คุณรักได้ ชีวิตของคุณก็จะไม่มีวันจน และมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต เพราะสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีแรงตื่นขึ้นมาในทุกเช้าคือความรักในงานที่ทำ หากทำงานที่รักและสามารถสร้างรายได้จากงานนั้น ชีวิตก็จะไม่มีวันเกษียณ แล้วสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
8. ชาตรี โสภณพณิช – อดีตประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ
“ผมจะก้าวหน้าไปสักก้าวก็ต้องเจออะไรมากระทบ แต่เราก็ต้องพยายามที่จะก้าวใหม่” แม้ว่าชาตรี โสภณพณิช จะเป็นทายาทรุ่นที่สองของผู้ก่อตั้งธนาคารกรุงเทพ แต่การรักษาธุรกิจที่เป็นมรดกของครอบครัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องผ่านพบกับอุปสรรคมากมาย ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาการเงินต่าง ๆ แต่เขาก็สามารถประคับประคองธนาคารกรุงเทพให้อยู่รอดได้ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลง ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาไม่กลัวที่จะก้าวไปข้างหน้า แม้ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่หากไม่ยอมถอยแล้ว สักวันก็ต้องเป็นถึงเป้าหมาย แม้ว่าจะต้องใช้เวลาและความอดทนมากเพียงใด นี่คือหลักปรัชญาที่มิได้ใช้เพียงแค่ในการทำธุรกิจเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับใช้กับชีวิตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
9. โดนัลด์ ทรัมป์
“นักลงทุนที่หลักแหลม เป็นเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับข้อมูล” ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เขาเขียนหนังสือหลายเล่ม และแบ่งปันประสบการณ์การทำธุรกิจผ่านรายการโทรทัศน์มากมาย หนึ่งในกุญแจไขความสำเร็จของเขาคือการทำตัวเหมือนฟองน้ำที่ดูดข้อมูลต่าง ๆ ไว้ให้มากที่สุด การเป็นนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จำเป็นที่ต้องศึกษาข้อมูลของพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อทำนายอนาคตของพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งทรัมป์ก็เน้นย้ำว่าการหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของตนเองสำคัญมาก รวมถึงการศึกษาคู่แข่งตลอดเวลา หลักคิดดังกล่าวสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการหมั่นแสวงหาข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับธุรกิจที่ทำอยู่เสมอ
10. ต๊อป อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ CEO เถ้าแก้น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
“ถ้าวิธีคิดเปลี่ยน การกระทำก็เปลี่ยน ถ้าการกระทำเปลี่ยน ผลลัพธ์ก็เปลี่ยน” วิธีคิดในการบริหารธุรกิจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จเสมอ ต๊อป อิทธิพัทธ์ เริ่มต้นสร้างธุรกิจเถ้าแก่น้อยจากสาหร่ายบรรจุห่อกระทั่งเมื่อถึงจุดที่ธุรกิจเริ่มอิ่มตัว ยอดขายลดลง เขาจึงพยายามแตกไลน์ธุรกิจเพื่อสร้างทางเลือกให้กับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการทำขนมขบเคี้ยวประเภทอื่น การทำร้านอาหารญี่ปุ่น และการร่วมมือกับคู่แข่งเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับธุรกิจตนเอง กับดักประการหนึ่งของคนทำธุรกิจคือการใช้วิธีการเดิม ๆ โดยหวังผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับต๊อป เมื่อเงื่อนไขในการประสบความสำเร็จเปลี่ยน เขาต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิดในการทำธุรกิจใหม่ ซึ่งนำไปสู่วิธีการที่แตกต่าง เช่น หาช่องทางจำหน่ายใหม่ เปลี่ยนรูปแบบสินค้าใหม่ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างการกระตุ้นยอดขายหรือแตกไลน์ไปทำธุรกิจที่ไปได้ไกลกว่าเดิม นี่คือสิ่งที่ทำให้นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแตกต่างจากนักธุรกิจที่ล้มเหลว พวกเขากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะเปลี่ยนธุรกิจในภายหลัง เพื่อเป้าหมายที่ดียิ่งขึ้น
10 คำคมจาก 10 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่เรานี้ได้รวบรวมมา ล้วนเป็นหลักคิดที่มีประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะสร้างแบรนด์หรือกิจการเป็นของตนเองทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งหนึ่งที่นักธุรกิจทุกคนมีร่วมกันคือความอดทนบากบั่น ความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และเดินหน้าเข้าแก้ไขปัญหาโดยไม่หลีกหนี ขอให้ทุกคนโชคดีกับธุรกิจและหวังว่าวันหนึ่งจะมีคนนำคำคมของคุณมาเขียนสร้างแรงบันดาลใจดังที่ปรากฎในบทความกันนี้เช่น