บรรจุภัณฑ์ เลือกอย่างไร ให้เหนือคู่แข่ง
บรรจุภัณฑ์ เลือกอย่างไร ให้เหนือคู่แข่ง การแข่งขันในเชิงธุรกิจปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างสูงมาก และยิ่งในธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้สูง ยิ่งมีการแข่งขันสูงตามเช่นกัน ดังนั้น เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ ในการทำธุรกิจจึงถูกงัดออกมาใช้กันอย่างเต็มที่ในธุรกิจทุกประเภท และธุรกิจในด้านสุขภาพและความงามก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่จัดได้ว่ามีการแข่งขันสูงอย่างยิ่ง ด้วยเทรนด์ของสุขภาพและความงามกำลังได้รับความนิยมนั่นเอง จึงทำให้การลงทุนในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงามได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อเลย โลโก้ เครื่องสำอาง ครีม เวชสำอาง ออกแบบยังไงดี
5 กลยุทธ์ในการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ทำให้ธุรกิจได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
การแข่งขันในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงามต้องสร้างความโดดเด่นให้เหนือคู่แข่งจึงจะได้เปรียบ ซึ่งด่านแรกของการแข่งขันก็คือ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง เพราะบรรจุภัณฑ์ถือเป็นด่านแรกของการเลือกซื้อสินค้า ถ้าบรรจุภัณฑ์มีความเตะตาต้องใจผู้บริโภคย่อมทำให้สินค้าได้เปรียบกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน โดยกลยุทธ์ในการเลือกบรรจุภัณฑ์มีอยู่ 5 เคล็ดลับดังนี้
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อเลย สร้างแบรนด์ครีมกันแดด ทำเงินได้ ด้วย 4 ทริค
1.Safer บรรจุภัณฑ์ต้องมีความปลอดภัย
- เป็นหัวใจหลักที่สำคัญที่สุด เพราะความปลอดภัยในการเลือกบรรจุภัณฑ์ย่อมส่งผลต่อคุณภาพของสินค้า และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงามจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เป็นสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน เช่น การเลือกพลาสติกจะต้องเป็นชนิดที่เหมาะสำหรับสินค้านั้นๆ โดยต้องมีการทดสอบบรรจุภัณฑ์ร่วมกับเนื้อสินค้า ทดสอบสภาวะต่างๆ ที่สินค้าต้องเจอระหว่างการขนส่งเพื่อจะได้ป้องกันปัญหาและแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมที่สุด ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อเด็กที่อาจมาสัมผัส ตลอดจนตัวบรรจุภัณฑ์นั้นจะต้องมีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม การที่บรรจุภัณฑ์มีความปลอดภัย ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้
2.Smarter บรรจุภัณฑ์ต้องมีความฉลาด
- การที่เราจะเลือกบรรจุภัณฑ์แบบใดก็ตาม บรรจุภัณฑ์ต้องเหมาะสมกับสินค้า สามารถพกพาไปที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก เพื่ออำนวยความสะดวกสบายที่ตามความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี นอกจากพิจารณาเรื่องความสวยความงามบนตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว บรรจุภัณฑ์ที่ฉลาดจะต้องสามารถนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาออกแบบเพื่อประยุกต์ใช้ร่วมกันจนกลายเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ชาญฉลาด ซึ่งมีคุณสมบัติให้ทั้งการทะนุถนอมปกป้องสินค้า และสร้างเอกลักษณ์ที่สวยงามให้แก่แบรนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหล่านี้จะกลายเป็นจุดเด่น ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าสนใจและน่าเลือกใช้สำหรับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
3.Simpler บรรจุภัณฑ์ควรเรียบง่าย
- บางครั้ง การเลือกบรรจุภัณฑ์บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องใส่เทคโนโลยีหรือออกแบบให้ยุ่งยากซับซ้อน ถ้าไม่ได้จำเป็นต่อตัวสินค้า เพราะสินค้าบางประเภทใช้บรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่ายก็เพียงพอแล้ว หากออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ซับซ้อนเกินความจำเป็น อาจส่งผลต่อตัวสินค้าหรืออาจเป็นการเพิ่มต้นทุนและความยุ่งยากโดยใช่เหตุ ดังนั้น การออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสินค้าแต่ละประเภทร่วมด้วย
4.Save money บรรจุภัณฑ์ต้องช่วยประหยัดเงิน
- การออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องมีความคุ้มค่ากับการลงทุน ตั้งแต่การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ทำให้การขนส่งสะดวก การจัดวางในการขนส่งแต่ละครั้งจะต้องได้ปริมาณมาก และบรรจุภัณฑ์ต้องเหมาะสมกับการขนส่งในแต่ละประเภท ทั้งทางเรือ ทางเครื่องบินหรือทางรถยนต์ เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ทำให้สินค้าสามารถกระจายไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เพื่อจะได้วางขายได้อย่างเต็มที่และคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแท้จริง
5.Make money บรรจุภัณฑ์ต้องช่วยหาเงินได้
- บรรจุภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพจะต้องสามารถสื่อและขายได้ด้วยตัวของบรรจุภัณฑ์เอง นั่นหมายถึงหากผู้บริโภคเห็นบรรจุภัณฑ์ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินซื้อได้ในทันทีทันใด แม้จะยังไม่ได้สัมผัสสินค้าด้านในก็ตาม ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่หาเงินได้จะต้องสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี จึงจะสามารถแย่งพื้นที่ในตลาดอย่างได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
การทำธุรกิจในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่สร้างแรงดึงดูดในการซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี หากเราต้องการความได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่งทางธุรกิจ นั่นหมายถึงเราจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการออกแบบและการผลิตบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม มีความโดดเด่นน่าสนใจเหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อที่เมื่อสินค้าออกสู่ท้องตลาดแล้ว จะกลายเป็นสิ่งที่สร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งในธุรกิจเดียวกันได้นั่นเอง และนี่ก็คือ 5 เคล็ดลับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม รับรองหากคุณทำได้ตามนี้ ธุรกิจของคุณจะมาแรงแซงหน้าคู่แข่งได้อย่างแน่นอน
