งานสกรีนมีกี่ประเภท ? วันนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการสกรีนเสื้อสำหรับผู้ที่อยากสร้างแบรนด์เสื้อยืดกัน ซึ่งการสกรีนเป็นกระบวนการสร้างภาพหรือลวดลายลงบนพื้นผิวต่าง ๆ โดยใช้เทคนิคการพิมพ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างภาพหรือลายตามแบบที่ต้องการ โดยการสกรีนเสื้อและการเลือกสีสกรีนนั้นมีความหลากหลายในประเภทต่าง ๆ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้ใช้งาน โดยประเภทของการสกรีนเสื้อ สีที่ใช้สำหรับสกรีน และเคล็ดลับสำหรับการสกรีนเสื้อให้ได้คุณภาพต้องทำอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันในบทความนี้เลย
งานสกรีนมีกี่ประเภท ? เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย
งานสกรีนมีกี่ประเภท เป็นสิ่งที่ผู้สนใจสร้างแบรนด์ผลิตเสื้อยืดควรทำความเข้าใจ เพราะการทำงานนั้นมีหลายประเภทที่สำคัญ โดยเฉพาะการสกรีนเสื้อผ้าซึ่งเป็นกระบวนการในสกรีนบนผ้าที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในวงการแฟชั่นและการโปรโมทธุรกิจ โดยงานสกรีนเสื้อนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. ระบบซิลค์สกรีน (Silk Screen)
งานสกรีนเสื้อประเภทนี้ คือ กระบวนการสกรีนเสื้อโดยการทาลวดลายลงบนบล็อกที่ใช้สำหรับสกรีน แล้วจึงนำสีมาพิมพ์ลวดลายลงบนเสื้ออีกที โดยใช้บล็อกสกรีนตัวเดียวกับสีหนึ่งสี ดังนั้น ถ้าต้องการสกรีนในรูปแบบสี่สี ก็จะต้องใช้บล็อกสกรีนสี่ตัว โดยหลักการสกรีนของมันก็คือทำให้บล็อกสกรีนมีลวดลายแล้วนำสีมาพิมพ์ผ่านลวดลายลงบนเสื้อ ทำให้ได้เสื้อที่ต้องการ
ระบบนี้นิยมใช้ในงานสายผลิตและการขายส่ง เนื่องจากสามารถจัดการสินค้าในปริมาณมากได้และเหมาะสำหรับงานที่ต้องการเทคนิคพิเศษ เช่น Glitter, การสกรีนฮาฟโทน (Halftone), Cmyk , สีนูน และลักษณะงานอื่น ๆ นอกจากนี้ ระบบซิลค์สกรีนยังเหมาะสำหรับสกรีนเสื้อทั้งในรูปแบบสีเข้มและสีอ่อนอีกด้วย
ข้อดีของระบบซิลค์สกรีน:
- เหมาะสมสำหรับการสกรีนจำนวนมาก เพราะระบบซิลค์สกรีนเหมาะสำหรับการพิมพ์ที่มีปริมาณมากๆ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความละเอียดสูง ทำให้ราคาเบาและสีที่ได้จะสดใสและคงทนมากกว่า
- ได้สีที่สดใสและติดทนนาน เพราะการใช้ระบบซิลค์สกรีนจะช่วยให้ได้สีที่สดใสและคงทนนานกว่าการพิมพ์แบบอื่น ๆ
- สามารถพิมพ์ได้บนผ้าและวัสดุต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น การพิมพ์บนผ้าทุกชนิดรวมถึงวัสดุอื่น ๆ เช่น ไม้ MDF ไม้สัก เหล็ก PVC พลาสติกทุกประเภท และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ขนาดของลายพิมพ์ไม่ค่อยจำกัด สามารถให้ความเสรีในการปรับขนาดของลายพิมพ์ แต่ในกรณีที่ต้องใช้บล็อคขนาดใหญ่ จำนวนชิ้นงานก็ควรจะมากพอเพื่อลดค่าใช้จ่าย
ข้อเสียของระบบซิลค์สกรีน:
- ข้อจำกัดของจำนวนสีในงานที่ต้องสกรีนมาก ๆ เพราะจะทำให้จำนวนบล็อคสกรีนเพิ่มขึ้นตามจำนวนสีที่ต้องการสกรีน
- ความละเอียดของงานและความสะอาดของเสื้อ เนื่องจากการสกรีนผ่านตาข่ายในระบบซิลค์สกรีนนั้น ขนาดของการพิมพ์จะไม่เล็กเกินไป อาจทำให้ภาพไม่คมชัดได้และการพิมพ์อาจทำให้เสื้อมีรอยหยึกหยักได้
- ไม่สามารถสกรีนตัวหนังสือเล็ก ๆ ได้ ระบบซิลค์สกรีนมีข้อจำกัดในการพิมพ์ตัวหนังสือเล็ก ๆ งานสกรีนบางครั้งอาจขาดหายได้ไม่เท่ากัน เนื่องจากข้อจำกัดของสีและตาข่ายบล็อกสกรีน
- ไม่เหมาะกับการทำเสื้อยืดจำนวนน้อย เนื่องจากอาจกลายเป็นภาระต้นทุนของผู้ผลิตเมื่อใช้ในการทำเสื้อยืดจำนวนน้อยได้
- เรื่องความสะอาดของเสื้อ เนื่องจากการสกรีนต้องวางเสื้อบนโต๊ะและใช้กาวในการติด อาจทำให้เสื้อเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคหรือเสื้ออาจติดกาวหากใช้กาวไม่ดี
2. ระบบรีดร้อน (Heat Transfer)
เป็นกระบวนการสกรีนที่ใช้ระบบการพิมพ์ลวดลายด้วยเครื่องพิมพ์ Ink Jet หรือ Laser บนกระดาษพิเศษที่เรียกว่า Transfer paper จากนั้นจะใช้กระดาษ Transfer ที่ถูกนำไปกดด้วยเครื่องรีดความร้อนเพื่อให้หมึกระเหิดย้อมติดไปบนเสื้อ โดยมีแผ่นฟิลม์บนกระดาษเป็นตัวเคลือบที่ยึดเกาะลวดลายกับตัวเสื้อไว้
ข้อดีของระบบรีดร้อน:
- ลายสกรีนบนเสื้อจะมีค่าใช้จ่ายเท่ากันไม่ว่าจะเป็นสีเดียวหรือหลายสี
- เหมาะสำหรับงานสกรีนที่ต้องการความละเอียดสูง เนื่องจากสามารถสกรีนได้หลากหลายสีมากกว่าระบบซิลค์สกรีน
- สามารถพิมพ์งานจำนวนน้อยได้โดยไม่ต้องอัดบล็อกสกรีน
ข้อเสียของระบบรีดร้อน:
- วัสดุที่ใช้ในการพิมพ์มีความจำกัดและควรเป็นตระกูลโพลีเอสเตอร์ ไนล่อน หรือใยสังเคราะห์อื่น ๆ
- เนื้องานจะมีความแข็งกระด้างและโอกาสที่สีที่สกรีนอาจหลุดลอกหากเลือกวัสดุไม่ดี
- กระดาษ Transfer อาจหลุดลอกได้หากวัสดุไม่ดี
- หากต้องการพิมพ์งานในปริมาณมาก ราคาจะแพงกว่าระบบซิลค์สกรีน
- ขนาดการพิมพ์มีข้อจำกัดไม่เกิน 38 cm x 38 cm.
3. ระบบดิจิตอลแบบ DTG (Direct To Garment)
เป็นกระบวนการสกรีนโดยการใช้เครื่องพิมพ์เฉพาะที่สามารถพิมพ์หมึกลงบนเสื้อโดยตรงได้ รูปแบบนี้เหมาะสำหรับงานที่ไม่จำกัดจำนวน ลวดลายการ์ตูนที่ซับซ้อน หรืองานที่ต้องใช้สีเยอะ เพราะด้วยคุณสมบัติที่สามารถสร้างภาพกราฟฟิกที่มีความละเอียดสูงและสีสันชัดเจนมากถึง 1200 dpi (เมื่อเทียบกับการสกรีนด้วยวิธี Silk Screen ที่มีความละเอียดเพียง 120 dpi)
กระบวนการสกรีนโดยใช้เครื่องพิมพ์ DTG เริ่มต้นด้วยการวางเสื้อบนแท่นพิมพ์แล้วสั่งพิมพ์ หลังจากนั้นจึงนำไปอบเพื่อให้สีแห้งเต็มที่ ระบบการพิมพ์นี้จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมและการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยในกระบวนการพิมพ์ดิจิตอลแบบนี้จำเป็นต้องผ่านขั้นตอน Pre-Treat เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพิมพ์และหลังจากการพิมพ์ต้องมีการอบเคลือบสี (finishing) เพื่อให้หมึกที่พิมพ์ติดทนบนเนื้อผ้าได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วย
ข้อดีของระบบดิจิตอลแบบ DTG:
- สามารถสกรีนได้ในหลายสี โดยการให้หมึกซึมไปยังเส้นใยผ้า ซึ่งเหมาะสำหรับการสกรีนบนเสื้อ Cotton โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังสามารถพิมพ์บนผ้าเข้มหรือผ้าสีดำได้ โดยจะมีกระบวนการเตรียมงานและเครื่องพิมพ์รองพื้นที่ใช้หมึกขาวก่อน ทำให้ภาพสวยและการสกรีนคมชัด และสามารถสกรีนบนเสื้อในทุกสีได้
- เป็นกระบวนการสกรีนเสื้อที่ให้ผลลัพธ์เหมือนจริงกับรูปถ่ายหรือภาพอื่น ๆ นับเป็นกระบวนการที่สุดยอดในปัจจุบัน
- สามารถพิมพ์งานจำนวนน้อยได้โดยไม่ต้องอัดบล็อกสกรีน
ข้อเสียของระบบดิจิตอลแบบ DTG:
- หากพิมพ์งานในปริมาณมาก ราคาจะสูงกว่าระบบซิลค์สกรีนและระบบรีดร้อน
- เครื่องพิมพ์มีราคาแพงและต้องการการบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัด
- หากผู้ใช้งานไม่มีความเข้าใจในกระบวนการเตรียมงาน อาจทำให้ได้ผลลัพธ์การพิมพ์ไม่ดีมากนัก
- ต้นทุนหมึกสูงและต้องใช้ทักษะการทำงานที่สูง
- ขนาดการพิมพ์มีข้อจำกัด โดยการพิมพ์ไม่เกินขนาด 50 ซม. x 50 ซม.
4. ระบบพิมตรงลงบนฟิล์ม DTF (Direct To Film)
การพิมพ์โดยตรงลงบนฟิล์ม (Direct-to-film printing หรือ DTF) เป็นหนึ่งในเทคนิคการพิมพ์เสื้อยืดที่ดีที่สุดและเกี่ยวข้องกับการพิมพ์ดีไซน์ลงบนฟิล์ม PET (Polyethylene Terephthalate) พอติดตัวไปกับเสื้อยืดโดยใช้ผงกาวและความร้อน เปรียบเทียบกับการพิมพ์ DTG, การพิมพ์ DTF ไม่ต้องการการดูดซับล่วงหน้าของเสื้อยืดเนื่องจากดีไซน์ได้ถูกพิมพ์ลงบนฟิล์มล่วงหน้าแล้ว การพิมพ์สีลงผ้าใช้กับผ้าประเภทใดก็ได้ ใช้เสื้อยืดโพลีเอสเตอร์หรือเสื้อยืดผ้าฝ้ายก็ได้ อย่างไรก็ตาม ในการพิมพ์โดย DTG การออกแบบและหมึกนำเข้าไปในเนื้อผ้า แต่ด้วยวิธีการ DTF ผงที่ใช้ในการปรับปรุงทำให้ดีไซน์ดูเป็นพลาสติกและไกล่เกลี่ยเพราะสีไม่มีผลต่อสีพื้นของเสื้อยืด ทำให้มีผลลัพธ์ที่สดใสมากขึ้น
ข้อดีของ DTF:
- วิธีการ DTF ช่วยให้สามารถพิมพ์บนผ้าหลากหลายประเภทได้
- สามารถให้ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและสดใสได้ เนื่องจากการออกแบบถูกปรับใช้กับผ้าโดยไม่ต้องแทรกซึมไหล่กัน
- สามารถโอนลายไปยังสีพื้นได้
- ความทนทานสูง
ข้อเสียของ DTF :
- สามารถใช้ได้เฉพาะกับสิ่งของขนาดเล็ก เช่นเสื้อยืด เครื่องหมายหมุนสำหรับหมอน หรือหน้ากาก
- การพิมพ์ออกมาเนื้อจะออกฟิลจับแล้วเหมือนจับพลาสติก
- กระบวนการทั้งหมดซับซ้อนกว่าการพิมพ์ด้วยการย้อมสีหรือการพิมพ์ DTG
งานสกรีนมีกี่ประเภท ? รวมประเภทของสีที่นิยมใช้ในการสกรีนเสื้อ
งานสกรีนมีกี่ประเภท เชื่อว่าคุณคงพอจะทราบกันไปแล้ว ต่อไปนี้คือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของกระบวนการสกรีนเสื้อซึ่งก็คือ ‘สีสกรีนที่ถูกเลือกใช้’ ปัจจุบันมีหลากหลายประเภทที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ โดยทั่วไปแล้วสีสกรีนที่นิยมใช้สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทซึ่งจะเกี่ยวข้องกับลักษณะของสี มาดูกันว่าประเภทของสีสกรีนที่ได้รับความนิยมในการสร้างผลงานสกรีนเสื้อที่สวยงามและน่าสนใจกับทั้งกลุ่มผู้ใช้และผู้สั่งซื้อสินค้าจะมีอะไรบ้าง
- การสกรีนสีน้ำมัน
สำหรับงานที่ต้องการสกรีนบนผ้าที่ติดยาก เช่น ผ้ากระเป๋า ผ้าใบ ผ้าร่ม และผ้าไนล่อน เราควรใช้สีน้ำมันในกระบวนการสกรีน สีน้ำมันเป็นสีที่มีโครงสร้างของน้ำมันเป็นหลัก และมีกลิ่นค่อนข้างแรง หลังจากหมึกสกรีนแห้งตัวแล้วจะต้องใช้น้ำมันผสมเพื่อล้างสี และเมื่อต้องการล้างสีจะต้องใช้น้ำมันล้างเช่นกัน
- สกรีนสีน้ำ
สำหรับงานที่ต้องการลงผ้าขาวหรือผ้าสีอ่อน ควรใช้สีน้ำในกระบวนการสกรีน เนื่องจากสีน้ำสามารถซึมเข้าไปรวมกับสีเดิมของผ้าได้ ทำให้งานสกรีนดูนุ่มและสบายมือ รวมทั้งสามารถระบายความร้อนได้ดี โดยสีน้ำเป็นสีเคมีที่ผลิตขึ้นโดยมีน้ำเป็นตัวทำละลาย และสามารถใช้งานได้สะดวก สีน้ำประเภทนี้สามารถพิมพ์ลงบนผ้าคอตตอน 100% (C20, C32, TC) และผ้าโพลีเอสเตอร์ 100% (TK, TTK, MICRO) เป็นต้น
- การสกรีนแบบสีนูน
สำหรับงานที่ต้องการลักษณะพื้นผิวที่หนาและสัมผัสได้ถึงเนื้อสี และต้องการลักษณะนูนแบบ 3 มิติ สามารถใช้งานสีนูนได้ งานสกรีนสีนูนสามารถใช้ร่วมกับงานประเภทสีน้ำหรือสีพลาสติซอลได้
- สกรีนสียาง
สำหรับงานที่ต้องการลงผ้าทุกสีทั้งสีอ่อนและสีเข้ม ควรใช้สียางในกระบวนการสกรีน เพราะสียางมีเนื้อสีที่ทำให้งานสีกรีนดูมีราคา แต่เมื่อสียางถูกสกรีนลงบนผ้าแล้วจะสัมผัสได้ถึงชั้นของสีที่หนา ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดี
- สีสกรีน Plastisol
สำหรับงานที่ต้องการลงผ้าทุกสีทั้งสีอ่อนและสีเข้ม ควรใช้สีพลาสติซอลในกระบวนการสกรีน เนื่องจากสีพลาสติซอลมีเนื้อสีที่ทำให้งานสกรีนดูมีราคาและมีคุณสมบัติในการยึดเกาะบนพื้นผิววัสดุที่ดี และมีความเงางามสดใสของเนื้อสี งานที่สกรีนด้วยสีพลาสติซอลจะมีชั้นความหนาของลวดลายเคลือบอยู่บนเนื้อผ้าเช่นเดียวกับสียาง
- สกรีนแบบสีลอย
สำหรับงานที่ต้องการเนื้อสีที่เกาะติดอยู่บนเส้นใยของผ้า สามารถใช้สีสกรีนเสื้อแบบสีลอยได้ เพราะจะมีความละเอียดน้อยกว่าสีจมและทำให้เนื้อสีเกาะติดอยู่บนเส้นใยของผ้า เมื่อสกรีนลงเสื้อผิวสัมผัสจะรู้สึกถึงลวดลายที่มีความหนาขึ้นมาจากเนื้อผ้า
- สกรีนฟอยล์
การสกรีนฟอยล์เป็นการใช้งานแบบแฟชั่นที่สวยงาม โดยการสกรีนกาวลงบนเสื้อแล้วรีดร้อนแผ่นฟอยล์ทับ งานจะมีเงาและดูมีราคา สามารถสกรีนฟอยล์ร่วมกับงานประเภทสีน้ำหรือสีพลาสติซอลได้
- สกรีนสีจม
สำหรับงานที่ต้องการเนื้อสีที่ละเอียดและเนื้อสีที่โปร่งใส สามารถใช้สีสกรีนเสื้อแบบสีจมได้ สีสกรีนประเภทนี้มีความละเอียดสามารถซึมลงไปถึงเส้นใยผ้าและมีเนื้อสีที่โปร่งใส การสกรีนลงบนเสื้อยืดจะให้ผิวสัมผัสที่เรียบสมบูรณ์และเนื้อผ้าเหมือนเดิม
เคล็ดลับสำหรับการสกรีนเสื้อให้ได้คุณภาพ
การสกรีนเสื้อยังเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแบรนด์และทำให้เสื้อผ้าดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเทคนิคและเคล็ดลับที่ถูกต้อง จะทำให้คุณสามารถพิมพ์เสื้อที่สวยงามและยั่งยืนได้อย่างมืออาชีพ โดยเคล็ดลับที่ทำให้การสกรีนลายเสื้อของคุณออกมาอย่างมีคุณภาพนั้น มีดังนี้
- เลือกเสื้อที่มีคุณภาพดี: การพิมพ์เสื้อที่สวยงามต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกเสื้อที่มีคุณภาพดี คุณอาจเลือกเสื้อที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง เพราะเนื้อผ้าที่ดีจะช่วยให้การพิมพ์เสื้อออกมาสวยงามและเนียนได้อย่างที่คุณต้องการ
- ทำการออกแบบและวางแผนการสกรีน: ก่อนที่คุณจะเริ่มการพิมพ์เสื้อ ควรทำการออกแบบและวางแผนการสกรีนล่วงหน้า เลือกตำแหน่งที่คุณต้องการจะให้การสกรีนอยู่ พิจารณาให้ดีว่าคุณต้องการโลโก้หรือตัวหนังสืออะไรบนเสื้อ และวางแผนเกี่ยวกับสีที่คุณจะใช้ในการพิมพ์ การวางแผนที่ดีจะช่วยให้การสกรีนออกมาได้อย่างถูกต้องและมีความสวยงามตามที่คุณต้องการ
- ใช้วัสดุและสีที่เหมาะสม: เลือกวัสดุและสีที่เหมาะสมกับเสื้อและการสกรีนของคุณ เมื่อเลือกวัสดุและสีที่ถูกต้อง การพิมพ์เสื้อจะมีความคงทนและยั่งยืน โดยคุณอาจเลือกใช้หมึกที่มีคุณภาพดีเพื่อให้การพิมพ์สกรีนทนทานต่อการใช้งานต่าง ๆ
- การใช้เทคนิคการพิมพ์ที่ถูกต้อง: เทคนิคการพิมพ์ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างผลงานที่สวยงามในการสกรีนเสื้อ คุณควรใช้เทคนิคการพิมพ์ที่แม่นยำและเนียนเพื่อให้ได้รูปแบบที่คุณต้องการ การใช้เครื่องพิมพ์ที่มีคุณภาพดีและทันสมัยก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมันจะส่งผลต่อคุณภาพของการพิมพ์ที่สกรีนในเสื้อ
- การดูแลเสื้อที่สกรีน: เพื่อให้การพิมพ์ที่สกรีนลงในเสื้อยั่งยืน คุณควรดูแลเสื้ออย่างถูกต้อง ไม่ควรใช้สารเคมีที่แรงมากเกินไปในการซักเสื้อ และควรหมักเสื้อในน้ำอุ่นโดยไม่ใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของสารเคมีอื่น ๆ ที่อาจทำให้สีสกรีนหมองลงได้
งานสกรีนมีกี่ประเภท ? โดยจากสรุปแล้วจะมีทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมในธุรกิจของคุณ ที่สำคัญจะเห็นได้เลยว่าผลงานการสกรีนเสื้อที่มีคุณภาพดีและยั่งยืนจะมาจากการใช้เทคนิคที่ถูกต้อง หากคุณต้องการสร้างแบรนด์เสื้อยืดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่รู้จัก และมีความน่าจดจำ การสกรีนเสื้อให้มีคุณภาพถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรใส่ใจอย่างมาก นอกจากนี้ การใช้เทคนิคและเคล็ดลับที่ถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์ของการพิมพ์ที่สกรีนเสื้อออกมาอย่างน่าประทับใจและดูเป็นมืออาชีพในทุก ๆ การใช้งานอีกด้วย
อ้างอิง:
The Ultimate Guide to the 8 Most Common Types of Shirt Printing. https://printify.com/blog/types-of-shirt-printing/
Last Updated on by รับผลิต ดอทคอม