โกจิเบอร์รี่ ขึ้นแท่น อาหารต้านอนุมูลอิสระสูง
โกจิเบอร์รี่ Goji Berry หรือ Wolfberry มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าLycium barbarum หรือที่ใครหลายคนอาจรู้จักกันในชื่อ เก๋ากี้ เป็นผลไม้สีแดงลูกเล็กๆ ที่พบเห็นได้บ่อยในอาหารจีน ตามตำราอาหารจีนว่ากันว่า ผลไม้สีแดงผลน้อยนี้ มีคุณสมบัติในด้านการเป็นอาหารต้านอนุมูลอิสระสูงโดยมีประสิทธิภาพช่วยฟื้นฟูร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งยังได้รับการยอมรับให้เป็นยอดยาอายุวัฒนะอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่ทราบถึงคุณสมบัติของโกจิเบอร์รี่ วันนี้เราก็จะมาชี้แจงประโยชน์และสรรพคุณของโกจิเบอร์รี่ให้ได้ทราบเพิ่มเติมกันแล้วดังนี้
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย อาหารเสริม เลือกกินแบบไหน ให้เหมาะกับวัย 30+
1.เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- เนื่องจากในโกจิเบอร์รี่ มีสารที่เป็นองค์ประกอบหลักอย่างสารโพลีแซกคาไรด์ ที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดี และเป็นไปอย่างสมดุลมากขึ้น จึงส่งผลต่อเนื่องโดยจะช่วยลดโอกาสของการเกิดภูมิแพ้สิ่งต่างๆ หรือลดความไวต่อสารกระตุ้น สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าภูมิต้านทานต่ำ แพ้ง่าย ป่วยบ่อยแนะนำให้ลองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของโกจิเบอร์รี่มารับประทานเป็นประจำ รับรองสุขภาพจะแข็งแรง และมีอาการเจ็บป่วยลดลงแน่นอน
2.ชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์
- นอกจากโกจิเบอร์รี่จะอุดมไปด้วยสารโพลีแซกคาไรด์แล้วโกจิเบอร์รี่ยังมีวิตามินซีสูงด้วย ซึ่งวิตามินซีจะทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ที่มีประสิทธิภาพชะลอการเสื่อมโทรมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ทำให้ริ้วรอย และความเสื่อมสภาพของระบบต่างๆ ชะลอการเสื่อมสภาพช้าลงนั่นเอง จากงานวิจัยในปี 2009ที่ทำการศึกษาผลของการดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่ติดต่อกัน พบว่าเมื่อดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่ติดต่อกันเป็นประจำ จะส่งผลช่วยเพิ่มระดับเอนไซม์ซึ่งมีหน้าที่หลักในการปกป้องเซลล์อย่าง Superoxide dismutase และ Glutathione peroxidase ได้ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของเอนไซม์ทั้ง 2 ชนิดนี้ เปรียบเสมือนเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระให้สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น
3.ชะลอริ้วรอยความเหี่ยวย่น
- สารอาหารต่างๆ ภายในโกจิเบอร์รี่มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวพรรณสวยเปล่งปลั่งตั้งแต่ภายใน เนื่องจากคุณสมบัติอันโดดเด่นที่จะช่วยในการปกป้องและชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ดังที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้เซลล์ต่างๆ จึงสามารถคงสภาพความอ่อนเยาว์ได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงมีผลช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวอ่อนเยาว์กว่าวัย และดูสดใสขึ้นเมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบเป็นโกจิเบอร์รี่ติดต่อกันเป็นประจำ
4.ช่วยลดสัญญาณความแก่
- สัญญาณความแก่ของร่างกายที่เห็นได้อย่างชัดเจน เช่น สายตาฝ้าฟาง กระบวนการคิดวิเคราะห์ที่ทำงานช้าขึ้น ความจำเลอะเลือน ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือการทำงานของตับไตบกพร่อง สัญญาณต่างๆ เหล่านี้จะสามารถพบเห็นได้เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น จากงานวิจัยของ Chang RC ในปี 2008ก็ได้ศึกษาคุณสมบัติของโกจิเบอร์รี่ในการเข้าไปจัดการกับปัญหาเหล่านี้ โดยพบว่าโกจิเบอร์รี่มีประสิทธิภาพเข้าไปช่วยพัฒนาระบบต่างๆ ในร่างกายให้ดีขึ้น และการทำงานของสารต่างๆ ในโกจิเบอร์รี่ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกายในรูปแบบการรับประทาน
5.ดูแลสุขภาพมวลรวม
- ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากโกจิเบอร์รี่ ไม่เพียงแค่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเท่านั้น แต่ผู้ที่สุขภาพแข็งแรงปกติก็สามารถรับประทานได้ โดยแร่ธาตุและสารสำคัญต่างๆ ภายในโกจิเบอร์รี่ล้วนมีคุณสมบัติเข้าไปช่วยดูแลระบบภายในให้ร่างกายมีคุณภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจากงานวิจัยของ Amagase H.ในปี 2008ก็ได้ทำการศึกษาให้ผู้ที่มีสุขภาพปกติทดลองดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่ติดต่อกัน 14 วัน พบว่าการดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่ จะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมระบบต่างๆ ในร่างกายให้ดีขึ้นได้ ตั้งแต่การนอนหลับ การเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งผลดีต่อด้านสุขภาพทางจิต และช่วยเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย โสม สารสกัดจากธรรมชาติ สู่การบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
เมื่อเห็นคุณสมบัติของโกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้กันแล้ว หลายคนก็อยากจะพุ่งตรงไปหามารับประทานกันเลยทีเดียว โดยในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลักจากโกจิเบอร์รี่ก็ถูกพัฒนาและคิดค้นออกมาด้วยกันหลากหลายรูปแบบทั้งในรูปแบบผลไม้อบแห้ง รูปแบบผง แบบน้ำ หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบบเม็ดก็มีให้ได้เลือกซื้อทั่วไปมากขึ้นตามท้องตลาด ในส่วนของการพิจารณาเลือกซื้อนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบหรือความเหมาะสมของร่างกายแต่ละบุคคลเลยค่ะ