เผย 6 ข้อเสียกันแดดผสมรองพื้น
เผย 6 ข้อเสียกันแดดผสมรองพื้น ในยุคสมัยปัจจุบันความสะดวกสบายและการประหยัดเวลาเป็นสิ่งที่ใครหลายคนต้องการ ดังนั้น เหล่าผู้ผลิตแบรนด์เครื่องสำอางต่างๆ จึงหันมาผลิตครีมกันแดดผสมรองพื้นขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ฟังจากชื่อก็คงจะทราบกันแล้วว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชิ้นนี้ มีหน้าที่ช่วยป้องกันแสงแดดที่เข้ามาทำร้ายผิว และยังสามารถทำหน้าที่ในการปกปิดริ้วรอยอีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่านอกจากคุณสมบัติมากมายเหล่านี้แล้ว ครีมกันแดดผสมรองพื้นยังมีข้อเสียแฝงมาด้วย โดยข้อเสียของการใช้ครีมกันแดดผสมรองพื้นก็มีดังนี้
คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน สิว ป้องกัน-ลดอัตราการเกิดได้ ด้วย 5 สารตัวใหม่จากธรรมชาติ
1.ทาแล้วหน้าลอย หน้าเทา
ปัญหาแรกที่กวนใจสำหรับคนที่ใช้ครีมกันแดดผสมรองพื้นในการแต่งหน้า นั่นก็คือ เมื่อทาไปแล้วสีของรองพื้นไม่เข้ากับสีผิว ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ เลย สมมติว่าคุณมีผิวสีแทนหรือผิวสองสี แต่รองพื้นที่เลือกใช้เป็นโทนสีชมพู หลังจากทาไปแล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหน้าลอยเด่นขึ้นมาดูไม่เป็นธรรมชาติ
วิธีแก้ไข : ให้ทดสอบดู undertone ของสีผิวตนเองก่อนว่ามีความเหมาะสมกับกันแดดผสมรองพื้นโทนสีไหน วิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้เลยคือสังเกตที่เส้นเลือดบริเวณข้อมือ ถ้าหากเส้นเลือดเป็นสีน้ำเงินหรือสีม่วง ให้พิจารณาเลือกใช้รองพื้นโทนสีชมพู แต่หากเส้นเลือดบริเวณข้อมือเป็นสีเขียวควรพิจารณาเลือกใช้รองพื้นโทนสีเหลือง หรืออีกวิธีคือการลองปาดและเกลี่ยรองพื้นบริเวณสันกรามดู หากเนื้อครีมกลืนไปกับสีผิวแสดงว่าโทนสีที่ใช้เหมาะสมแล้ว แต่วิธีนี้ควรทำในที่สว่างหรือมีแสงเพียงพอเพื่อให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
2.ตกบ่ายหน้าร่อน
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่อยู่ควบคู่ไปกับผู้ที่มีสภาพผิวหน้าค่อนข้างมันและผิวผสม ในระหว่างวันหากไม่ได้เติมแป้ง หรือซับเอาความมันส่วนเกินออก ก็จะเห็นว่าบางส่วนของเนื้อรองพื้นหลุดลอกออก เผยให้เห็นผิวจริง โซนที่พบเจอปัญหานี้ได้บ่อยคือ จมูก หน้าผาก และคาง
วิธีแก้ไข : วิธีแก้ไขที่ทำแล้วเห็นผลจริงแต่คนส่วนมากไม่นิยมทำตามคือ การเลือกใช้รองพื้น 2 สูตร สูตรแรกคือสูตรที่ใช้ปกติทั่วไป โดยใช้สำหรับทาบริเวณผิวที่ไม่หลุดลอกง่าย เช่น แก้ม และอีกสูตรหนึ่งคือสูตรที่สามารถควบคุมความมันได้ โดยใช้สำหรับบริเวณที่หลุดลอกง่าย เช่น หน้าผาก จมูก และคาง และอีกวิธีที่สามารถทำได้ง่ายกว่าคือการใช้กระดาษซับมัน ซับก่อนเติมแป้ง หรือก่อนลงครีมกันแดดผสมรองพื้น
คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน เครื่องสำอาง สกัดจากมูลวัว แบบนี้ก็มีหรอ?!
3.หน้าเยิ้มเหนียวเหนอะหนะ
สำหรับข้อนี้เป็นปัญหาใหญ่ของคนที่เลือกใช้ครีมกันแดดผสมรองพื้นไม่เหมาะสมกับผิวหน้า อย่างคนที่มีผิวหน้ามัน แต่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวแห้ง หรือสูตรที่มีสารบำรุงผิวหน้ามากๆ ทำให้หลังจากทาซักพักหน้าจะเยิ้ม เหนียวเหนอะหนะไม่สบายผิว เนื่องจากเหงื่อ และความมันที่มีอยู่บนผิวหน้าผสมกับความมันของสารบำรุงกลุ่ม oil จึงทำให้เกิดความมันเยิ้มขึ้นมานั่นเอง
วิธีแก้ไข : ควรอ่านฉลากก่อนว่าส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์สูตรนี้ เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเราหรือไม่ สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมันควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดผสมรองพื้นที่มีสารบำรุงกลุ่ม oil แต่ถ้าหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ แนะนำให้แก้ไขด้วยการใช้กระดาษซับมันซับผิวจนความมันลดลง แล้วเติมแป้งฝุ่นลงไป เพื่อให้สภาพผิวหน้าหายจากความมันเยิ้ม
4.ผิวหน้าหายใจไม่ออก
ลักษณะสำคัญของครีมกันแดดผสมรองพื้นคือ มีเนื้อครีมที่หนาและหนักหน้ามาก คุณสมบัติของเนื้อครีมลักษณะนี้คือช่วยปรับผิวหน้าให้เนียนละเอียด กลบหลุมสิวและริ้วรอยต่างๆ ได้ดี แต่มีข้อเสียคือ อาจเกิดการอุดตัน จนก่อให้เกิดสิวอักเสบและรูขุมขนกว้าง
วิธีแก้ไข : ไม่ควรใช้ครีมกันแดดผสมรองพื้นทุกวัน หลังใช้ควรทำความผิวหน้าให้สะอาดหมดจด หรือลองเปลี่ยนไปใช้ครีมกันแดดแบบเนื้อโลชั่นแทน เพราะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและสบายผิวหน้ามากกว่า
5.ไม่ติดหน้า
สำหรับคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ จากทั้งกิจกรรมปาร์ตี้หรือการทำงานหนักโต้รุ่ง หลังจากตื่นเช้ามาอาจเกิดเหตุการณ์ ทารองพื้นแล้วไม่ติดหน้า เกลี่ยครีมได้ไม่ทั่วทั้งใบหน้า นี่คือลักษณะของภาวะผิวหน้าขาดน้ำ หรือขาดความชุ่มชื้น
วิธีแก้ไข : ผู้ที่ประสบกับปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไขแบบเร่งด่วน โดยอาจจะเลือกใช้ครีมบำรุงที่ช่วยเติมน้ำให้กับผิวและระหว่างวันควรดื่มน้ำให้มากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเป็นการฟื้นฟูผิวหน้าให้มาพร้อมความชุ่มชื้นมากขึ้น
6.SPF เกินความต้องการ
ปกติครีมกันแดดในความเข้าใจของผู้บริโภคคือยิ่งมีค่าSPF สูง จะยิ่งปกป้องผิวหน้าจากทั้งแสงแดดและรังสียูวีได้ดี ความเข้าใจแบบนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดหากกิจกรรมที่คุณต้องพบเจอในแต่ละวันต้องผจญกับแดดแรงตลอดเวลา แต่หากระหว่างวันนั่งทำงานในห้องแอร์ หรือไม่ต้องเจอกับแดดจัดๆ โดยตรง การเลือกซื้อครีมกันแดดที่มี SPF สูงก็ถือว่าเปล่าประโยชน์ เพราะจะทำให้เปลืองเงิน และอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะไม่สบายผิวแถมยังเสี่ยงต่อการเกิดสิวอุดตันได้อีกด้วย
วิธีแก้ไข : พิจารณาเลือกใช้ครีมกันแดดผสมรองพื้นให้เหมาะสมกับกิจกรรมส่วนใหญ่ในแต่ละวัน หากกิจกรรมที่ทำเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องเผชิญกับแสงแดดจัดเป็นเวลานาน ก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่าSPF 15-30 ก็เพียงพอแล้ว ถ้าหากวันไหนต้องไปเที่ยวทะเลหรือมีกิจกรรมกลางแจ้งจริงๆ ค่อยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ที่สูงขึ้น หรือทาครีมกันแดดซ้ำบ่อยๆ ก็สามารถช่วยได้
หากใครที่กำลังประสบปัญหาจากการใช้ครีมกันแดดผสมรองพื้นอยู่ ก็สามารถนำเอาวิธีแก้ไขเหล่านี้ไปปรับใช้กันได้เลยค่ะ เพื่อลดปัญหาผิวหน้าต่างๆ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของครีมกันแดดผสมรองพื้นให้สามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ได้มากยิ่งขึ้น