อยากรวย ต้องรู้ 7 คำต้องห้าม ดับทางรวย
7 คำต้องห้าม ดับทางรวย ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจหรือการเดินตามหาความฝัน ทุกคนล้วนแล้วแต่มีคำขวัญหรือคำคมเสริมกำลังใจเพื่อเติมพลังชีวิตและไฟฝันกันทั้งสิ้น แต่ก็มีคำต้องห้ามอยู่จำนวนหนึ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงนำมารังควาญสมองเป็นอันขาด เพราะนอกจากเป็นคำที่สร้างพลังลบให้กับชีวิตแล้ว ยังทำให้คุณขาดกำลังใจและความกล้าที่จะมุ่งมั่นทำธุรกิจหรือสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย คำดังกล่าวมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านได้เลย สร้างแบรนด์ ด้วย Influencer Marketing
1.สินค้า High-End ชาตินี้ก็ไม่มีวันซื้อได้
ไม่มีใครจะทำอะไรคุณได้ หากคุณไม่ดูถูกตัวเองและไม่กลัวที่จะล้มเหลว แม้ว่าสินค้าราคาแพงดูหรูหรามีระดับ (High-end) จะไม่ได้มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต แต่หลายคนก็เลือกที่จะให้รางวัลตนเองจากการทำงานหนักด้วยการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าเหล่านั้น สำหรับคนที่ในปัจจุบันมีความปรารถนาในสินค้าหรูหราเหล่านั้นก็ควรที่จะต้องถามตนเองก่อนว่าวันนี้คุณทำงานหนักพอที่จะคู่ควรกับสินค้าเหล่านั้นแล้วหรือยัง หากคุณต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อไปซื้อสินค้าเหล่านั้น นี่ย่อมไม่ใช่หนทางสู่ความร่ำรวย แต่หากคุณใช้ความปรารถนาที่จะได้มีได้ใช้สินค้า High-end เป็นแรงกระตุ้นให้คุณทำงานหนักและหาช่องทางหารายได้ใหม่ นี่แหละที่เรียกว่าคุณค่าที่คุณคู่ควร
2.ไม่มีเงินก็ไม่ตาย
ในสังคมกสิกรรมและเศรษฐกิจแบบยังชีพ แน่นอนว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตมากเท่ากับอาหาร ที่พัก เครื่องนุ่มห่ม และยารักษาโรค แต่เมื่อปัจจุบันโลกเคลื่อนเข้าสู่สังคมสมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยทุนนิยมและโลกาภิวัตน์ ระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกันทั้งโลก การมีเงินเท่ากับเป็นการการันตีการอยู่รอดในสังคมปัจจุบัน เงินไม่ว่าจะสกุลเงินหลักหรือสกุลเงินดิจิทัลล้วนแล้วแต่มีความสำคัญยิ่งขึ้นตามลำดับ เพราะฉะนั้น การมองว่าไม่มีเงินก็ไม่ตาย แม้จะมีส่วนถูกต้องอยู่เหมือนกัน แต่เงินก็เป็นสิ่งจำเป็น และการมุ่งสร้างความร่ำรวยก็เป็นหลักประกันในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ไม่มีเงินก็ไม่ตาย แต่ตายเร็วกว่ามีเงินนั่นเอง
3.ความสุขไม่จำเป็นต้องมาจากการมีเงินทองเยอะๆ
จริงอยู่ ความสุขในชีวิตสามารถมาได้จากหลายสิ่งหลายอย่าง แม้กระทั่งความสุขเล็ก ๆ อย่างการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือคนรัก แต่นักปรัชญาตะวันตกอย่างจอห์น สจวร์ต มิลล์ เคยเสนอว่าความสุขของมนุษย์นั้นมีอยู่หลายระดับด้วยกัน ได้แก่ ความสุขระดับล่างอย่างการดูละครโทรทัศน์ การเล่นเกม กับความสุขระดับบนอย่างการได้เดินทางท่องโลก การได้รับชมการแสดงของนักร้องคนโปรดแบบใกล้ชิด หรือการทำในสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้อย่างการมีบ้านหลังใหญ่หรือเป็นเจ้าของรถสปอร์ทคันละหลายล้าน แม้จะดูฟุ่มเฟือย แต่ในเมื่อคุณมีชีวิตเดียว แล้วคุณจะไม่แสวงหาความสุขทั้งระดับบนและระดับล่างให้ครบถ้วนก่อนตายสักหน่อยหรือ?
4.เงินเป็นต้นเหตุของอบายมุข
แน่นอนว่าการมีอำนาจซื้อย่อมมีโอกาสชักนำคนให้เข้าไปสู่วงจรของอบายมุขได้ง่ายกว่าคนที่ไม่มีอำนาจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นวงจรของการพนัน สุรายาเมาเคล้านารี หรือการใช้เงินเพื่อซื้ออำนาจและการเคารพบูชา สิ่งเหล่านี้หลายคนอาจมองว่าเงินเป็นต้นเหตุของความชั่วร้าย แต่เมื่อพิจารณาอย่างถ่องแท้แล้ว เงินไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่การใช้เงินในทางผิดต่างหาก หากผู้ที่มีเงินทองจำนวนมากมีสามัญสำนึกและสติสัมปชัญญะก็สามารถใช้เงินสร้างความมั่งมีให้กับตนเอง ตลอดจนช่วยสร้างสาธารณประโยชน์ได้อย่างมากมี ด้วยเหตุนี้ การหาเงินให้ได้มาก ๆ จึงไม่ใช่เรื่องผิด แต่อยู่ที่การใช้เงินอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่า
5.มีเงินให้เก็บออม
เป็นความจริงที่การเก็บหอมรอมริบตั้งแต่ยังอายุร้อย ๆ จะช่วยเพิ่มพูนหลักประกันในชีวิตในยามเกษียณหรือแก่ชราได้ แต่การเก็บออมนั้นมีมากมายหลายรูปแบบ ผู้ที่มีโอกาสที่จะร่ำรวยได้นั้น จะต้องใช้เงินให้ทำงานมากกว่าการเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ในธนาคารเพียงอย่างเดียว แต่อาจใช้รูปแบบการออมแบบการลงทุนในสินทรัพย์อย่างตราสารหนี้ ตราสารเงิน หรือหุ้นสะสมมูลค่าได้เช่นกัน หรือบางคนอาจจะเลือกที่จะออมเงินในที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ปล่อยเช่า หรือแม้กระทั่งการออมในสกุลเงินดิจิทัลก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เชื่อได้ว่าสามารถเพิ่มพูนเงินออมที่มีอยู่มากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำเรี่ยดินในปัจจุบัน
6.งานประจำคือเงิน เงินคืองานประจำ
ปฏิเสธมิได้ว่างานประจำคือช่องทางหาเงินที่มีความมั่นคงในระดับหนึ่ง เงินเดือนที่โอนเข้าบัญชีในแต่ละเดือนสามารถวางแผนจับจ่ายใช้สอยได้ดียิ่งกว่าเงินที่ได้มาจากการรับจ้างทำงานเป็นชิ้นที่อาจจะได้มาในจำนวนที่ไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงยึดงานประจำเป็นช่องทางในการหารายได้ที่สำคัญมากที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว นอกเหนือจากงานประจำแล้ว คุณยังมีช่องทางในการหารายได้อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ การรับจ้างเขียนบทความ แปลเอกสาร การรับงานอาสาสมัคร ทำงานฝีมือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยเพิ่มพูนรายได้ในแต่ละเดือนแล้ว ยังช่วยฝึกให้คุณสามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และลดโอกาสในการใช้จ่ายเงินอย่างสิ้นเปลืองอีกด้วย
7.ทำงานหนัก = รวย
ไม่มีใครที่รวยได้จากการเกียจคร้าน ข้อนี้เป็นความจริงยกเว้นแต่คนที่โชคดีเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่ต่อให้ร่ำรวยสักเท่าใด หากไม่ตั้งใจหาทรัพย์สินมาเพิ่มเติม สิ่งที่มีอยู่วันหนึ่งก็ต้องหมดไป ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงยืนยันว่าการทำงานหนักเท่านั้นที่จะช่วยสร้างความร่ำรวยได้ ซึ่งก็ต้องบอกว่าถูกเพียงแค่บางส่วน เพราะงานหนักบางประเภทนั้นกลับมีค่าแรงที่น้อยนิด โดยเฉพาะหากคุณอยู่ผิดที่ผิดทาง การทำงานหนักไปก็อาจจะไม่ได้ค่าตอบแทนที่คุ่มค้ากับสิ่งที่ลงแรงไป เพราะฉะนั้น กล่าวให้ถูกคือ ทำงานเป็น = รวยและเหนื่อยน้อยลง การทำงานเป็นคือการอยู่ในสังคมทำงานที่เอื้อต่อความก้าวหน้า มีตำแหน่งที่สามารถเติบโตได้ และที่สำคัญมีค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกับความพยายามที่จะช่วยให้เราไม่ต้องเหนื่อยฟรีนั่นเอง
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านได้เลย วิธีการสร้างแบรนด์ใหม่ เรียกลูกค้าอย่างไรให้อยู่หมัด
ทุกคนย่อมมีคำเสริมกำลังใจหรือคติประจำตัวที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตไปสู่ความก้าวหน้าร่ำรวย แต่ก็อย่าลืมว่าบางครั้งคำคมเด็ดๆ บางประการก็เป็นคำต้องห้ามที่ไม่ควรใช้นำทางชีวิต เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและทำให้การเดินหน้าไปสู่ความร่ำรวยสะดุดลงกลางทางได้ ทั้ง ๆ ที่อีกไม่กี่ก้าวคุณก็จะถึงเป้าหมายที่คุณได้ตั้งไว้แล้ว