แบรนด์เครื่องสำอาง อาหารเสริม เวชสำอาง ปั้นแบรนด์อย่างไรให้ติดตลาด
ปั้นแบรนด์อย่างไรให้ติดตลาด การสร้างแบรนด์นั้นนับว่ายากแล้ว แต่การปั้นแบรนด์ให้ติดตลาดนั้นกลับยากยิ่งกว่า เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ช่วยส่งให้แบรนด์ใดหนึ่งประสบความสำเร็จ สามารถเข้าไปนั่งอยู่ใจลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดที่ดีเยี่ยม ชื่อเสียงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่ยังจับทางไม่ได้ หรือไม่แน่ใจว่าควรจะต้องบริหารแบรนด์ไปในทิศทางไหน ซึ่งเราก็รวบรวม 5 เทคนิคปั้นแบรนด์ให้ติดตลาดมาแบ่งปัน ดังนี้
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย อาหารเสริม 7 ตัว ที่ดีที่สุด รับมือวัยทอง 40+
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย ครีมกันแดด สร้างแบรนด์ให้ดังได้ด้วย 5 ขั้นตอน
1.หมั่นศึกษาคู่แข่งเสมอ
ตำราพิชัยสงครามของซุนหวู่กล่าวไว้ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” คำกล่าวนี้ไม่ได้เกินความจริงแต่อย่างใด เพราะการศึกษา เปรียบเทียบแบรนด์ของคุณกับคู่แข่งจะช่วยชี้ให้เห็นข้อบกพร่อง จุดแตกต่างที่นำไปสู่การพัฒนา ปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ และช่องทางการขายให้ดียิ่งขึ้น เจ้าของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก ถือคติว่าคู่แข่งคือครูที่ดีที่สุด โดยเฉพาะคู่แข่งที่มีศักยภาพเหนือกว่า เพราะการศึกษาวิเคราะห์คู่แข่งจะทำให้คุณได้ทราบถึงเคล็ดลับ แบบแผนของความสำเร็จเพื่อที่คุณจะสามารถนำบทเรียนเหล่านั้นมาต่อยอดกับแบรนด์ของคุณได้ เปรียบได้กับการเรียนรู้จากประสบการณ์ทางอ้อมของคนอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด และตามรอยความสำเร็จนั่นเอง
2.ปรับปรุงเทคนิคการขายตลอดเวลา
ในโลกปัจจุบัน ธุรกิจที่หยุดนิ่งคือธุรกิจที่ตายแล้ว เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้นั้น เจ้าของแบรนด์จำเป็นที่จะต้องหมั่นตรวจสอบและเก็บข้อมูลยอดขายสินค้าเสมอ โดยควรจัดทำเป็นฐานข้อมูลส่วนตัวไว้ เช่น ช่วงเวลาไหนที่สินค้าขายได้ดี กลุ่มเป้าหมายแบบใดที่ตอบสนองต่อช่องทางการขายแบบต่างๆ ผู้บริโภคมีพฤติกรรมอย่างไร ที่สำคัญคือเมื่อทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้า ก็ต้องทบทวนเทคนิคการขายเพื่อปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ความผิดพลาดใหญ่ของนักธุรกิจจำนวนมากคือการพยายามใช้เทคนิคการขายเดิม ๆ โดยคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง เจ้าของแบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของตลาดเสมอ และปรับปรุงเทคนิคการขายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ รวมทั้งแสวงหาช่องทางการขาย และตลาดใหม่ ๆ เพื่อยกระดับแบรนด์ของตนเองให้เป็นที่รู้จัก
3.ต้องรู้กฎหมาย
เนื่องจากปัจจุบัน สิทธิผู้บริโภคเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก และความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ และอาจลุกลามนำไปสู่จุดจบของแบรนด์ได้ ด้วยเหตุนี้ เจ้าของแบรนด์จึงควรต้องศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการรับรองสูตรครีม เวชสำอาง และอาหารเสริม กระบวนการผลิต จัดจำหน่ายที่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ อย.ตลอดจนสารเคมีต้องห้ามต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เจ้าของแบรนด์สามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข อย.หรือปรึกษาทีมงานของบริษัทหรือโรงงานรับผลิตครีมที่คุณเลือกใช้ ซึ่งส่วนใหญ่มีผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษาในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตเครื่องสำอาง และเวชสำอางตั้งแต่ต้นจนจบ
4.ให้ความสำคัญกับการดีไซน์
การดีไซน์เป็นหัวใจประการหนึ่งในการสร้างความประทับใจแรกพบ (First impression) ของกลุ่มเป้าหมาย หากบรรจุภัณฑ์มีความสวยงาม ดึงดูดสายตา ก็จะช่วยหยุดผู้คนหรือนักท่องเว็บที่สัญจรผ่านไปมาให้หันมาพิจารณาสินค้าของคุณได้ ทั้งนี้ นอกจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ ‘เตะตา’ แล้ว การดีไซน์ช่องทางการขายรูปแบบต่าง ๆ ให้น่าสนใจ อาทิ Facebook, Instagram หรือเว็บไซต์ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายจากแหล่งต่าง ๆ ให้เข้ามาสนใจสินค้าทั้ง ๆ ที่แต่เริ่มเดิมที พวกเขาอาจจะไม่ได้ต้องการซื้อสินค้าของคุณ แต่ถูกใจที่การดีไซน์มากกว่า นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่การออกแบบที่ใช่ ก็อาจนำมาซึ่งลูกค้าที่ชอบได้เช่นกัน
5.รักษาฐานลูกค้าให้ดี
ลูกค้าเก่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดของเจ้าของธุรกิจ เพราะความภักดีต่อแบรนด์ในปัจจุบันนั้นเป็นสิ่งที่สร้างได้ยากยิ่ง เพราะฉะนั้น การรักษาฐานลูกค้าจึงเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจ ซึ่งเจ้าของแบรนด์สามารถเลือกที่จะดึงลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์ของตนเองได้หลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Line Official เพื่อส่งข่าวสารเข้าไลน์ของลูกค้า การเสนอโปรโมชั่นหรือคูปองพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า ไปจนถึงการจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยให้ลูกค้าเก่าช่วยรีวิวสินค้าแบรนด์ของคุณ และช่วยโฆษณาปากต่อปากให้กับกลุ่มเพื่อนของพวกเขา นอกจากนั้น คุณยังสามารถนำข้อคิดเห็นของลูกค้าเก่าเหล่านั้นกลับมาปรับปรุงสินค้าให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
6.ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
ผู้บริหารทุกคนต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข่าวสาร เทรนด์ในตลาด ความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลที่อาจจะส่งผลต่อการผลิตสินค้าแบรนด์ของคุณอย่างต้นทุนที่สูงขึ้นหรือข้อกำหนดต่าง ๆ นานาที่ออกมาเพื่อควบคุมกระบวนการผลิต สิ่งเหล่านี้ เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องรู้เพื่อให้สามารถเตรียมมาตรการรองรับได้อย่างทันท่วงที นอกจากนั้น การศึกษาหาความรู้ยังหมายถึงการเข้าร่วมสัมมนาธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเปิดโลกทัศน์ ได้รับรู้ประสบการณ์ของผู้ที่อยู่ในตลาดมานาน และยังเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายหรือแนะนำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างอีกด้วย
การปั้นแบรนด์ให้ติดตลาดนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในวันสองวัน แต่จำเป็นต้องอาศัยความอดทดอดกลั้น และความเพียรพยายาม เพราะไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มาโดยง่าย เจ้าของแบรนด์สามารถนำเทคนิคในบทความนี้ไปปรับใช้กับแบรนด์เครื่องสำอาง อาหารเสริม และเวชสำอางของตนเอง เพื่อให้เป็นที่รู้จักได้ไม่มากก็น้อย
